google-site-verification: googlee94f9d8adbc03df9.html แหล่งตกปลา เหยื่อตกปลา รอกและคัน: พฤษภาคม 2012https://fishingsourcethailand.blogspot.com/

วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

โมโนโซเดียมกลูตาเมต Monosodium Glutamate


โมโนโซเดียมกลูตาเมต Monosodium Glutamate
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โมโนโซเดียมกลูตาเมต (Monosodium Glutamate) มักเรียกกันว่า ผงชูรส วัตถุเจือปนอาหารประเภทวัตถุปรุงแต่งรสอาหารที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย โมโนโซเดียมกลูตาเมต มีลักษณะเป็นผงผลึกสีขาวไม่มีกลิ่น มีคุณสมบัติในการเป็นสารเพิ่มรสชาติอาหาร ทำให้อาหารมีรสชาติโดยรวมดีขึ้น เนื่องจากเมื่อโมโนโซเดียมกลูตาเมตละลายน้ำ จะแตกตัวได้โซเดียมและกลูตาเมตอิสระที่มีสมบัติในการเพิ่มรสชาติอาหาร โดยช่วยเพิ่มรสชาติของรสชาติพื้นฐาน 4 รสที่เรารู้จักกันดีคือ รสหวาน รสเค็ม รสเปรี้ยว และรสขม ให้เด่นชัดมากขึ้น ในการศึกษาทางเภสัชวิทยาเกี่ยวกับรสชาติพบว่าผงชูรสสามารถกระตุ้น Glutamate Receptor แล้วทำให้เกิดรสชาติเฉพาะตัวที่เรียกว่ารสอูมามิ (Umami) ซึ่งเป็นรสที่ 5 ที่มนุษย์สามารถรับรู้ได้และมีเอกลักษณ์แตกต่างจากรสชาติพื้นฐานทั้ง 4
โมโนโซเดียมกลูตาเมตเป็นสารประกอบประเภทกลูตาเมตซึ่งเป็นเกลือของ กรดกลูตามิก (Glutamic acid) อันเป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของโปรตีนทั่วไป เช่น โปรตีนในเนื้อสัตว์ โปรตีนในนม และโปรตีนในพืช โดยกลูตาเมตจะจับอยู่กับกรดอะมิโนตัวอื่นๆ เกิดเป็นโครงสร้างของโปรตีน กลูตาเมตที่อยู่ในรูปของโปรตีนจะไม่มีกลิ่นรสและไม่มีคุณสมบัติทำให้เกิดรสอูมามิในอาหาร แต่เมื่อเกิดการย่อยสลายของโปรตีน เช่น เกิดกระบวนการหมัก การบ่ม การสุกงอมของผักและผลไม้ การทำให้สุกด้วยความร้อน จะทำให้กลูตาเมตในโปรตีนเกิดการสลายแยกตัวออกมาเป็นกลูตาเมตอิสระ ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้เกิดรสอูมามิในอาหาร นอกจากนี้ ยังได้มีการค้นพบว่าสารที่เกิดจากการย่อยสลายไรโบนิวคลีโอไทด์ในนิวเคลียสของเซลล์สิ่งมีชีวิตซึ่งได้แก่ ไอโนซิเนต (Inosinate) และกัวไนเลต (Guanylate) ก็มีคุณสมบัติให้รสอูมามิเช่นเดียวกับกลูตาเมตอิสระ ยิ่งไปกว่านั้นยังพบว่าไอโนซิเนตและกัวไนเลตมีคุณสมบัติในการเสริมรสอูมามิให้เด่นชัดมากขึ้น เมื่อใช้ร่วมกับกลูตาเมต โดยผลการเสริมกันนี้มีลักษณะแบบ Synergistic Effect
การใช้
ผงชูรสมีคุณสมบัติทำให้อาหารมีรสชาติโดยรวมดีขึ้น โดยธรรมชาติแล้วผงชูรสจะใช้ได้ดีมากกับอาหารที่มีรสเค็มหรือเปรี้ยว การใช้ผงชูรสในอาหารต้องใส่ในปริมาณที่เหมาะสม ประมาณร้อยละ 0.1 - 0.8 โดยน้ำหนัก เช่น อาหารหนัก 500 g หากเติมผงชูรสประมาณ 0.5 - 4 g หรือประมาณ 1 ช้อนชา ก็เพียงพอจะให้รสอูมามิในอาหาร การใส่มากเกินไปจะทำให้รสชาติอาหารโดยรวมแย่ลง และมีรสชาติที่ผิดแปลกไปซึ่งผู้บริโภคจะสามารถรับรสที่ผิดแปลกนี้ได้ทันที ซึ่งเรียกว่า Self Limiting อันเป็นลักษณะเช่นเดียวกับ เกลือแกง ที่ให้รสเค็ม และน้ำส้มสายชู ที่ให้รสเปรี้ยวก็จะต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสมเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นอาหารที่เติมผงชูรสในปริมาณที่พอเหมาะจะช่วยให้ลดปริมาณการเติมเกลือแกงในอาหารลงได้โดยที่ยังคงความอร่อยของอาหารอยู่ ทำให้ผู้บริโภคที่มีความจำเป็นต้องจำกัดปริมาณโซเดียมในอาหาร เช่น คนชรา สามารถบริโภคอาหารได้มากขึ้นและได้รับปริมาณโซเดียมน้อยลงอันเป็นผลดีต่อสุขภาพกายและใจ
-->

หัวเชื้อตกปลาสวายแข่งสูตรอามิ


หัวเชื้อตกปลาสวายแข่งสูตรอามิ
เริ่มต้น ก็เกริ่นซะของแรงเลย " หัวเชื้อตกปลาสวายแข่งสูตรอามิ " จากประสบการณ์ในการตกปลาที่ผ่านมาในชีวิตของผมนั้น  ทำให้ผมได้เรียนรู้ศึกษาวิธีการต่างๆ ที่จะเผด็จศึกเหล่าปลาประเภทต่างๆ ที่ตกตามบ่อตกปลา  ทั้งสูตรเหยื่อ  สูตรหัวเชื้อ  และเทคนิคต่างๆ  ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ที่นักตกปลาทุกคนต้องศึกษาและเรียนรู้  หลายๆ  ท่านที่เป็นนักตกปลาผมเชื่อว่า  ทุกท่านคงทราบกันดีว่า " อามิคืออะไร? "  และใช้ทำอะไรได้บ้างในวงการนักตกปลาแข่งขัน
อามิคืออะไร?  อามิคือ โมโนโซเดียมกลูตาเมต  หรือกากน้ำตาลที่เหลือจากการผลิตผงชูรส  พบเห็นและมีใช้กันมากในบ่อเลี้ยงกุ้ง  เพราะอามิเป็น 1 ในส่วนผสมที่จะนำมาหมักให้เกิดไรแดง เพื่อจะนำไรแดงไปเป็นอาหารเลี้ยงลูกกุ้งชั้นอนุบาล  หรือผลิตไรแดงเพื่อเชิงธุรกิจ  ขายไรแดงส่งขายให้กับตัวแทนจำหน่ายอาหารสัตว์จำพวกปลากัด และปลาตู้ต่างๆ และใช้เพื่อกระตุ้นปลาที่เป็นโรคเบื่ออาหารหรือกินอาหารยาก  แต่นักตกปลาได้มีการพัฒนา และประยุกต์อามิมาเป็นเหยื่อล่อให้ปลากิน  และติดใจในรสชาติอาหาร โดยเฉพาะปลาสวายที่ทุกคนคงทราบดีอยู่แล้วว่า เป็นปลาที่ฝึกหัดกันได้  ในสมัยก่อนตอนที่บ่อตกปลาต่างๆ ยังไม่มีการห้ามเหยื่อประเภทนี้  ได้มีการถูกนำไปใช้จนได้ผลเกินคาด
 เปล่าผมไม่ได้แนะนำหรือสนับสนุนท่านนักตกปลาให้ใช้อามิ  มาเป็นอาหาร  หัวเชื้อ  หรือเหยื่อตกปลาแต่อย่างใดๆ เพียงแต่ผมเกริ่นขึ้นมาเพื่อให้ทราบว่า รสชาติความอร่อยของอามินั้นเป็นที่ถูกอกถูกใจของปลาเป็นอย่างดี  สิ่งที่ผมจะแนะนำคือ สูตรเหยื่อที่มีกลิ่นและรสชาติใกล้เคียงกับอามิต่างหาก คือมี เปรี้ยว หวาน  มัน เค็ม   
ส่วนผสมมีดังนี้
1.  หัวน้ำหอมทำอาหารกลิ่นนมเนยครีม        1      ขวดหัวเชื้อ
2.   หัวน้ำหอมทำอาหารกลิ่นมะลิ                  ½      ขวด
3.  หัวเชื้อตกปลากลิ่นฟรุ๊ตตี้                          1        ฝา
4.  ผงชูรส                                                      2        ช้อนโต๊ะ
5.  ดีเกลือ                                                      ½       ช้อนกาแฟ


วิธีการผสม
-          นำผงชูรสเทใส่ในขวดหัวเชื้อกลิ่นมะลิ  และเขย่าขวดให้ผงชูรสละลายจนหมด  แล้วนำไปเทรวมกับหัวเชื้อกลิ่นนมเนย และกลิ่นฟรุ๊ตตี้  จะได้หัวเชื้อประมาณ  11/2  ขวด 
-          หลังจากนั้นนำดีเกลือผสมลงไป  และเขย่าขวดให้ดีเกลือละลาย ( แต่ถ้าไม่มีดีเกลือใช้เกลือที่ทำอาหารก็ได้)  และชิมดูรสชาติ  ถ้าท่านเคยได้ลิ้มลองชิมอามิมาบ้างแล้ว ท่านจะสามารถปรับแต่งรสชาติได้บ้างตามอัธยาศัย  แต่ถ้าไม่เคยก็ไม่ต้องปรับปรุงอะไร อาจจะลองชิมดูหน่อยก็ดีนะ
วิธีนำไปใช้
                ผสมกับน้ำบ่อฉีดพ่นที่ขนมปังที่ปั้นตะกร้อ  และชิ้นขนมปังเกี่ยวเบ็ด
-->

วันอาทิตย์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เทคนิคการตกปลาสวายเพื่อการแข่งขัน


เทคนิคการตกปลาสวายเพื่อการแข่งขัน

จากบทความที่แล้วผมเขียนเรื่อง สูตรเหยื่อแข่งตกปลาสวายตามบ่อตกปลา ผลปรากฏว่ามีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ในการเข้าเยี่ยมชม พอดีผมติดค้างไว้ว่าจะเขียนเรื่อง เทคนิคการตกปลาสวายเพื่อการแข่งขัน” ก็ขอเริ่มเลยแล้วกัน  ก่อนอื่นผมต้องออกตัวก่อนนะครับว่าผมเองก็ไม่ใช่เซียนหรือจอมขมังเวทย์  ที่เก่งในการตกปลาแข่งเพียงแต่บอกเล่าประสบการ์ณของการแข่งขันตกปลาที่ผ่านมาในชีวิตของผมเอง  เพราะที่จริงแล้วการตกปลาสวายแข่งมันเป็นศาสตร์ที่นักตกปลาต้องมั่นศึกษาและเรียนรู้ด้วยตัวเอง  คงเคยได้ยินนะครับ 2 คนใช้เหยื่อถังเดียวกัน แต่การกินของปลาต่างกัน  หรือคนหนึ่งวัดเอาๆ แต่อีกคนนั่งกินแห้ว  นักตกปลาที่เก่งทุกคนล้วนแต่ผ่านจุดนั้นมาทั้งสิ้นรวมทั้งตัวผม  การตกปลาแข่ง  อุปกรณ์ต้อง เบา แข็งแรง เป็นอันดับแรก เพราะเราอาจต้องส่งเหยื่อทั้งวัน และต้องถือคันไว้ตลอด
คันเบ็ดตกปลา
คันเบ็ด
           ควรมีน้ำหนักเบาและเป็นGraphite ของACADIA ก็ได้ถูกเงินดี  หรือถ้ามีเงินมากก็ตามสะดวก  โดยความยาวที่ใช้ 8 – 10 ฟุต กำลังดี  เวทสายสัก 12 – 25 ปอนด์  Action ปานกลาง สำหรับมือใหม่ผมแนะนำเป็นชุดสปินนิ่งจะดีกว่าเพราะจะตีเหยื่อง่าย


รอกตกปลา
รอกสปิน ตอนนี้ราคารอกตกปลาราคาไม่แพงมากนัก เพราะมีหลายแบนเนมต่างแข่งขันกันทำตลาด และผลิตรอกออกสู่ตลาดทำให้รอกมีราคาถูกลง เลือกขนาดที่แมทซ์กับคันเบ็ดที่เราใช้ ผมแนะนำ  Shimano ALIVIO FC 4000 ( New 2011 )  แล้วกัน  ราคาไม่แพงคุณภาพใช้ได้เลย สมราคา  ใส่สายเอ็นสัก 12 ปอนด์  สายเอ็นขนาดนี้จะพริ้วตัวได้ดีดูเป็นธรรมชาติเวลาอยู่ในน้ำ  ทำให้ปลาไม่ระแวงเหยื่อ ถ้าใครมีทุนสูงจะเล่นเบท Abu Garcia ก็สนุกไปอีกแบบ



ตัวเบ็ด
                ตัวเบ็ดที่ใช้ ขนาดเบอร์ 8 – 10  ก็พอ  บางท่านเห็นขนาดเบ็ดตกปลาที่ผมระบุ อาจจะสงสัยว่าปลาสวายตัวออกใหญ่โต ปลาไซต์ตามบ่อแข่งส่วนมากก็ขนาด  กิโลกรัมขึ้นไป  แล้วเบ็ดเบอร์ จะเอาอยู่หรือ?  ผมรับรองว่าสบายครับ  ดูบทความนี้ผมนำมาจากเว็บกามากัตสึ  และผมก็ใช้อยู่ดีมากครับ ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกามากัตสึ รวมทั้งอุปกรณ์ที่แนะนำในเว็บนี้แต่อย่างใด  ผมแนะนำในฐานะผู้ซื้อใช้งาน  ใช้ดีจึงบอกต่อ
1. รุ่นอิเซอะมาแบบบิด รหัสเบอร์ 17208 ซองสีส้ม เป็นตัวเบ็ดแบบทรงหน้าบิด ก้านยาว ท้องตัวเบ็ดค่อนข้างกว้าง ท้ายแบน ไม่มีห่วง เหมาะสำหรับการตกปลาทุกประเภทที่มีปากเพดานบนค่อนข้างแข็ง เบ็ดทั่วๆ ไป จิกคมไม่ค่อยอยากจะเข้า เช่น ปลาสวาย ปลาบึก และปลาเกล็ดทั่วไป มือสะปิ๋วหรือชิงหลิวจะชอบเบ็ดทรงนี้เป็นพิเศษ ว่ากันว่าแค่ปลาเล็มๆ เหยื่อพอให้ทุ่นชิงหลิวจมลงนิดเดียว กระตุกข้อมือวัดสวน แรงกระตุกข้อมือเล็กน้อยก็เพียงพอที่คมเบ็ดจะพุ่งเจาะทะลุปากปลาอย่างง่ายดาย
 2. รุ่นอิเซอะมาแบบบิดกับมีห่วง รหัสเบอร์ 17211 ซองสีฟ้า เป็นตัวเบ็ดแบบเดียวกับข้อ  1 แต่บริเวณด้านท้ายของเบ็ดจะมีรู เบ็ดทรงนี้ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ชนิดที่เรียกว่าเป็นตัวเบ็ดขายดีที่สุด จุดเด่นจุดแข็งกอดคอกันมาครบ คือ ผูกเงื่อนง่าย แข็งแกร่ง นักตกปลาส่วนใหญ่เชื่อว่าหน้าเบ็ดบิดจะติดปลาง่ายกว่าเบ็ดหน้าตรง โดยทั่วไปเบ็ดหน้าบิดจะแข็งแรงสู้เบ็ดหน้าตรงไม่ได้ ดังนั้นเบ็ดกามากัตสึรุ่นพิเศษนี้จะออกแบบเผื่อความแข็งแรงของก้านเบ็ดเอาไว้ชดเชยกับจุดอ่อนของเบ็ดหน้าบิด และเผื่อนักตกปลาใช้สายโหลดหรือสายไดนีม่าระดับ 40-80 ปอนด์มาตกปลา คิดเผื่อไว้มากขนาดนั้นจริงๆ ขนาดเบอร์ 5-10 นิยมใช้ตกปลาเกล็ดทั่วไป แต่ถ้ายังไม่รู้จะไปตกปลาอะไร เบ็ดทรงอิเซอะหน้าบิดกับมีห่วง เบอร์ 9-11 เป็นขนาดยอดนิยมที่นักตกปลาเลือกใช้มากที่สุด เพราะตัวเบ็ดขนาดนี้ของกามากัตสึทรงนี้ สามารถตกได้ทั้งปลาเกล็ดเล็กๆ ปลาสวาย ปลายี่สก ปลาช่อน หรือถ้าเกิดติดปลาใหญ่ ระดับ 5-10 ก.ก. หรือมากกว่านั้น เบ็ดเบอร์ขนาดนี้ก็เอาอยู่ ถ้าไม่มั่นใจลองนึกถึงเบอร์ 9 ผูกด้วยลวดมาร์ลิน 3 ตัว ที่ใช้อัดอินทรีระดับ 4-10 ก.ก. กลางทะเล หรือเบ็ดเบอร์ 13 จำนวน 3 ตัว ที่ใช้เกี่ยวหมึกหอมใหญ่ๆ ตกปลาเก๋าตัวละ 10-20 ก.ก. กลางอ่าว เบ็ดเบอร์ใหญ่กว่านั้น เช่น ระดับเบอร์ 13-15 นิยมใช้ตกปลาบึกระดับ 10-15 ก.ก. ขึ้น ที่ใช้ๆ กัน ปลาบึกระดับ 30-60 ก.ก. ยังยอมแพ้
ตระกร้อวิ่ง

ชุดปลายสาย

             ประกอบไปด้วย ตระกร้อวิ่ง  ลูกปัด  ลูกหมุน วิธีการเลือกใช้ชุดปลายสายนั้นก็ไม่ตายตัวต้องคอยปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาขึ้นอยู่ว่าเราจะตกแบบใด เช่น
1.     ตกผิวน้ำ  การตกผิวน้ำผมจะใช้ลูกปัด 3 – 4 เม็ดร้อยเข้าไปในสายเมนส่วนสายหน้าให้ยาวประมาณ 1 ฟุต  แล้วปั้นขนมปังใส่เลย วิธีนี้จะทำให้เหยื่อเบาและลอยน้ำแต่ต้องใช้ขนมปังขาวล้วนๆ
2.     ตกกลางน้ำ  การตกกลางน้ำหมายถึงระยะก้นบ่อกับระยะผิวน้ำ  อันนี้ต้องใช้ทุ่นช่วยครับ และตั้งระยะความลึกของทุ่นเอา
3.        ตกหน้าดิน  การตกหน้าดินสามารถเลือกใช้อุปกรณ์ชุดปลายสายได้หลายแบบ เช่น
3.1   ฝังเข็ม ใช้ตะกั่วเม็ดเล็กๆร้อยเข้าไปในสายเมนแล้วปั้นขนมปังใส่ เหน็บด้วยเหยื่อขนมปังแผ่นเป็นตัวเกี่ยวเบ็ด
3.2   ใช้ตะกร้อวิ่ง  ตะกร้อที่ใช้อาจจะมีตะกั่วลูกเล็กๆอยู่ด้านในหรือไม่มีก็ได้  โดยมีจุดประสงค์ว่าเราต้องการให้เหยื่อจมน้ำช้าหรือว่าเร็วแค่ไหน  ซึ่งจะมีผลกับการกินของปลา   ขออธิบายดังนี้  ปกติแล้วปลาสวายเล็กจะรวมตัวกันอยู่ผิวน้ำ ส่วนปลาสวายใหญ่จะอยู่ในระดับน้ำที่ลึกกว่า  ดังนั้นมันอยู่ที่เราว่าต้องการไซต์อะไร  ถ้าต้องการไซต์ที่ใหญ่กว่า ก็อาจจะต้องใช้ตะกร้อที่มีตะกั่วด้วยเพื่อให้เหยื่อจมน้ำเร็วขึ้น และหลีกหนีสวายเล็กที่เข้าแย่งชิงเหยื่อบนผิวน้ำ
เหยื่อล่อ
คือ  ขนมปังป่น หรือขอบขนมปังป่น ที่เราปั้นใส่ตระกร้อเวลาตกปลา ตามบ่อตกปลาสวายเพื่อการแข่งขันมีข้อกำหนดว่าต้องใช้ขนมปังเท่านั้น มีบางแห่งเท่านั้นที่ให้ใช้รำได้ ปัจจุบันบ่อตกปลาบางที่บังคับให้ใช้ขนมปังของบ่อ  ถ้าจะนำไปเองก็ได้แต่ต้องเป็นขนมปังขาว  และต้องผ่านการตรวจสอบจากทางกรรมการก่อนนำเข้า  ตามความคิดของผมส่วนตัวผมแล้ว  ผมว่าใช้ขนมปังบ่อดีที่สุดเพราะปลามันเคยกินทุกวันจนชิน  และค่อนข้างสะดวกสบายไม่ต้องจัดเตรียม  เมื่อก่อนตอนที่ผมเริ่มแข่งใหม่ๆ ช่วงนั้นยังไม่มีการบังคับ  ก่อนแข่งผมจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าสารพัด  พอตกเข้าจริงบางบ่อปลาไม่กินเหยื่อที่ผมเตรียมไว้อย่างดีเลย ต้องหันไปซื้อขนมปังบ่อแทน
หัวเชื้อ
                หัวเชื้อ  อาจจะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้  ให้ศึกษาบ่อที่เราจะไปตก  เพราะบางบ่อปลาสวายจะถูกฝึกมาจากนักแข่งขันที่มีการใช้หัวเชื้อกลิ่นต่างๆ  แต่บางบ่อก็มีการห้ามใช้หัวเชื้อเด็ดขาด  ดังนั้นถ้าเราไปแข่งบ่อตกปลาที่มีการใช้หัวเชื้อเราก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้มันเหมือนกัน  และก็พยายามมองและสังเกตนักแข่งคนอื่นๆ ว่าใช้อะไร ส่วนมากแล้วปลาสวายจะชอบความมันของเหยื่อเช่นกะทิ แยมโรล  และประเภทกลิ่นหอมอ่อนๆ เช่นใบเตย มะลิ นมเนย  เวลาจะใช้ก็ผสมลงในถังหรือปั้นขนมปังเสร็จแล้วค่อยฉีดพ่นหัวเชื้อก็ได้  โดยมากผมจะใช้อย่างหลังมากกว่า
เหยื่อเหน็บ
                เหยื่อเหน็บก็คือ  ขนมปังแผ่นชิ้นที่เราใช้เกี่ยวที่ตัวเบ็ดสำคัญมาก  เราจะได้ปลาหรือไม่ก็ตัวนี้แหละ  นักตกปลามือใหม่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
เทคนิคการตกปลาสวายแข่ง
                -  เมื่อเรามีอุปกรณ์พร้อมแล้ว  เรามาเริ่มกันเลยอันดับแรกเข้าบ่อที่เขาเปิดแข่งขันนั่นแหละ แต่ไปวันที่เขาไม่ได้เปิดแข่งเพื่อซ้อมมือ  ฝึกการปั้นขนมปังป่นก่อนเป็นอันดับแรก  ถ้าใช้ตะกร้อให้ปั้นขนมปังชั้นแรกหุ้มตะกร้อแค่พอมิดกดให้แน่นๆเลย  เสร็จแล้วหุ้มชั้นนอกอีกครั้งหนึ่งหลวมๆ  ระวังอย่าให้แน่นมากกะพอว่าตีเหยื่อไม่แตกกลางอากาศ  แรกๆยังไม่ต้องเกี่ยวเบ็ดก็ได้  เวลาตีเหยื่อเล็งให้ตรงให้เหยื่อและปลายคันอยู่ด้านหลัง หันหน้าเข้าหาบ่อให้ตั้งฉากกับบ่อ และเหวี่ยงคันเบ็ดข้ามหัวเราจากด้านหลังไปข้างหน้า   กะให้เหยื่อลอยโด่งขึ้นสูงสัก 20  30 เมตร และกะระยะว่า  ถ้าบ่อจัดพื้นที่ให้ตกปลาได้ทั้งสองฝั่งเราก็กะให้เหยื่อลงกลางบ่อ ถ้าบ่อกว้างก็พยายามตีให้ถึง  แต่ถ้าบ่อกำหนดให้ตกปลาฝั่งเดียวก็กะให้เหยื่อตกห่างจากฝั่งตรงข้ามประมาณ 2 เมตร  ( ปกติปลาสวายตามบ่อตกปลาจะระแวงและอยู่ห่างคน ดังนั้นบ่อที่ให้ตกได้สองฝั่ง ปลาสวายจะอยู่กลางบ่อ) ส่วนสาเหตุที่ให้ดอยเหยื่อขึ้นสูงเพราะว่าเวลาเหยื่อดิ่งจากที่สูงจะมีน้ำหนักและเกิดแรงกระแทกกับผิวน้ำทำให้เหยื่อแตกกระจายได้ดี  สังเกตุดูว่าเราปั้นขนมปังแน่นเกินไปหรือไม่  ให้ฟังเสียงเหยื่อกระทบผิวน้ำ  ถ้าดังเป๊ะ....ก็ใช้ได้  แต่ถ้าดังตูม...เหมือนลูกตาลหล่นรับรองปลาหนีกระเจิง
                -   การเกี่ยวเหยื่อเหน็บ  ผมใช้วิธีเอามือฉีกขนมปังแผ่นเอาแต่ส่วนที่เป็นเนื้อขาวๆ กะขนาดกว้าง 2 เซ็นติเมตรและยาว 3  4 เซนติเมตร  และเอาปลายเบ็ดสับแทงให้ทะลุอีกด้านหนึ่ง  และเกี่ยวกลับอีกครั้งโดยให้ขอเบ็ดโผล่ออกมาพ้นขนมปังเล็กน้อยแล้วห่อซ่อนตัวเบ็ดไว้  และบีบขนมปังส่วนที่อยู่โคนเบ็ดตรงที่เราผูกสายเอ็นให้แน่นจะได้ไม่หลุดง่ายเวลาเราตีเหยื่อ  จำไว้ว่าชิ้นเหยื่อที่เราเกี่ยวเบ็ดนี้จะต้องแปะไว้ข้างๆขนมปังที่ปั้นเป็นเหยื่อล่อเสมอ  ถ้าจะฝังไว้ด้านในก็ได้แต่ต้องมีความชำนาญในการปั้นเหยื่อดีพอ  ไม่งั้นเวลาเหยื่อลงน้ำเหยื่อเหน็บไม่หลุดออกมา ปลาก็มองไม่เห็นกว่าจะกินได้อาจจะต้องรอนาน  หรืออาจจะถูกตะกร้อทับติดโคลนก้นบ่อทีนี้รอทั้งวันปลาก็ไม่กินสักที
                -  ปกติปลาสวายจะหากินและอยู่รวมกลุ่ม  เราจะต้องมองหาฝูงปลาสวายและตีเหยื่อเข้ากลางฝูงเลย  รับรองไม่พลาดอันนี้เหมาะสำหรับการซ้อมมือที่นักตกปลามีไม่มากเราสามารถเดินหาฝูงปลาได้  แต่เวลาแข่งขันจริงเราอาจจะทำอย่างนั้นมันไม่ง่ายนัก  โดยมากนักแข่งทั่วไปจะมากันเป็นทีมๆละ 5  10 คน  ในแต่ละทีมต่างก็บอม..เหยื่อลงไปในจุดที่ตัวเองต้องการ  ให้ขนมปังไปกองไว้เยอะๆ ปลาจะได้รวมฝูงได้ง่าย  โอกาสที่เราจะแทรกตัวเข้าไปคงลำบาก  ก็ใช้วิธีเกาะท้ายกลุ่มไว้เผื่อฟลุ๊ค... สำหรับตัวผมชอบลงแข่งตามลำพังเพราะทำให้มีสมาธิดี  สามารถปรับกลยุทธได้ง่าย ไม่ย้ายที่ ผมใช้วิธีสร้างแรงดึงดูดปลาสวายด้วยการใช้หัวเชื้อเป็นตัวล่อ  และได้ผลทุกครั้งส่วนจะติดรางวัลหรือไม่อันนี้ก็อยู่ที่ดวงครับ  หลายท่านคงเคยได้ยินคำว่า “ชั่งจัง ตังค์ไม่เอา “
                -  การใช้สายหน้า  ก็คือสายที่เรามัดกับตัวเบ็ด  อีกด้านหนึ่งมาผูกมัดกับลูกหมุนกับสายเมนของรอก  ส่วนตัวผมจะเลือกใช้สายเอ็นที่มีคุณภาพสูง  แน่นอนราคาต้องสูงตามขนาดไม่เกิน 15 ปอนด์  ตั้งความยาวไว้ที่ 1 ฟุตก่อน  และไล่หาระยะเอาอีกที   ( ตามความคิดของผมๆ ว่าสายเอ็นจะพลิ้วตัวได้ดีกว่าสายเชือกถัก และโอกาสที่จะพันกับสายเมนเวลาปลาลากสายนั้นน้อยกว่า ) 
                -  และควรมั่นสังเกตุคนที่ตกปลาแล้วกินดี  มาเป็นแบบอย่างในการพัฒนาฝีมือ  ที่จริงมันมีเทคนิคเยอะครับอธิบายไปก็ไม่จบ ท่านลองศึกษาจากเว็บไซต์ต่างๆเพิ่มเติม
ทั้งนี้ขอขอบคุณ ร้านปากน้ำฟิชชิ่งดอตคอม  ที่เอื้อเฟื้อภาพอุปกรณ์การตกปลา  ร้านปากน้ำฟิชชิ่งดอตคอมเป็นร้านจำหน่ายอุปกรณ์ตกปลาทุกชนิดทั้งปลีกและส่งราคาย่อมเยาว์  อยู่ปากน้ำสมุทรปราการ  ใครสนใจก็เลือกหาดูได้นะครับ 

-->
-->

สูตรเหยื่อแข่งตกปลาสวายตามบ่อตกปลา

สูตรเหยื่อแข่งตกปลาสวายตามบ่อตกปลา
บทความนี้ขอนำเสนอประสบการณ์ ทริปท่องเที่ยวตกปลาในหัวข้อ  สูตรเหยื่อแข่งตกปลาสวายตามบ่อตกปลา หลายท่านคงสงสัยว่าตกลงผมจะพาท่องเที่ยวทำบุญตามวัดต่างๆ  หรือจะพาไปทำบาป  ครับนอกจากผมและครอบครัวจะชอบทำบุญแล้ว ผมเองก็เคยไปศึกษาดูงานและท่องเที่ยวต่างประเทศ เช่นอิตาลี สิงคโปร เกาหลีใต้ 2ครั้ง และประเทศจีนแต่ไม่เคยคิดจะเขียนเว็บไซต์ตอนนี้นึกอยากเขียนขึ้นมาก็ลืมหมดแล้ว  ส่วนตัวผมเองชอบการท่องเที่ยวตกปลาตามสถานที่ต่างๆ เป็นชีวิตจิตใจเห็นที่ไหนมีน้ำไม่ได้เป็นอยากตกปลาขึ้นมาทันที  ช่วงนี้ดูข่าวจากโทรทัศน์ต่างจังหวัดฝนตกน้ำท่วมหลายจังหวัด ผมยังคิดไว้ว่าถ้าบริษัทมีวันหยุดติดต่อกันหลายวันจะออกทริปต่างจังหวัดสักหน่อย
                นอกเรื่องไปเสียนานมาเข้าเรื่องสูตรเหยื่อแข่งต่อ  ปกติแล้วปลาก็ไม่ต่างอะไรกับคนเราที่จะชอบกินของที่มีรสชาติอร่อย หรือท่านจะปฏิเสธว่าไม่ใช่  ในการตกปลาแข่งตามบ่อนั้นหลายท่านคงคิดว่าตกยังไงมันก็กินเพราะเขาเลี้ยงไว้ให้ตก  ผมเองก็เคยคิดเช่นนั้นเหมือนกันแต่มันไม่ใช่ ถ้าคุณไม่มีประสบการณ์พอตัวอย่าไปนึกถึงถ้วยรางวัลเลยครับ นึกก่อนว่าจะทำอย่างไรให้ปลามันกินเหยื่อของคุณ  ที่จริงแล้วมันต้องใช้เทคนิคเข้าช่วย  ประกอบกับมีเหยื่อดีร่วมกันจะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งก็ไม่ได้เอาไว้บทความหน้าผมจะพูดถึงเรื่องเทคนิคก็แล้วกันเพราะขึ้นเรื่องเหยื่อแล้ว
ถ้วยรางวัลนี้ผมได้จากการแข่งขันตกปลาที่บ่อตกปลาเมืองไทย อยู่อำเภอบางบ่อ จ.สมุทรปราการ  วันนั้นปลากินดีมากผมเกือบจะได้ 2 รางวัล  รางวัลปลาไซร์ที่กำหนด  ขณะแข่งขันคะแนนผมนำอันดับ 1 ด้วยปลาน้ำหนักสูงสุดในขณะนั้น 12 กก. มาตั้งแต่เวลา 11: 35 น. นำมาตลอด  จนกระทั่งเวลาประมาณ 16:30 น. งานเข้า  เย่อปลาขึ้นมากะดูด้วยสายตาได้ไซร์ประมาณ 2.6 กก. (การแข่งขันทุกบ่อห้ามชั่งปลาที่ตกได้ก่อนเด็ดขาด) ก็เดินเอาปลาไปชั่งที่กรรมการๆ ที่ทำหน้าที่ปลดเบ็ดออกจากปากปลาได้เรียกให้ผมดูปลาที่ผมนำไปชั่งว่าเกี่ยวจากนอกปากเข้าข้างใน  แต่ที่เสียความรู้สึกมากเลยเพราะกรรมการลองชั่งน้ำหนักดูผลออกมาแล้วปรากฏว่าน้ำหนักพอดีเป๊ะเลยแต่ฟาวส์  เพราะกติกาเบ็ดต้องเกี่ยวที่ปากปลาจากข้างในออกข้างนอกเท่านั้น ผมเดินคอตกมาที่ซุ้มปลอบใจตัวเองว่าไม่เป็นไรเอาใหม่  ตลอดจนสิ้นสุดเวลาการแข่งขัน 17:00 น. ผมรับถ้วยรางวัลปลาใหญ่ และเงินรางวัลไม่มากนัก
หัวเชื้อตกปลาที่ผมใช้ในวันนั้นดังนี้ครับ
     1. หัวเชื้อกลิ่นใบเตย              1     ขวด
     2. หัวเชื้อกลิ่นมะลิ                 1/2  ขวด
     3. หัวเชื้อกลิ่นนมแมว            1/4  ขวด
     4. น้ำตาลทราย                    6-7   ช้อนโต๊ะ
     5. กระทิคั้นเอง                       2    ขวดหัวเชื้อ
     6. ผงชูรส                             1-2  ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
     - นำกระทิตั้งไฟอ่อนๆ เคี่ยวให้แตกมัน  ใส่ผงชูรสและน้ำตาลลงไป
     - ใส่หัวเชื้อจนครบหมดทุกกลิ่น  และเคี่ยวต่อสักครู่ด้วยไฟอ่อนๆ   จนแตกกลิ่นหอมอ่อนๆ แล้วค่อยยกออกจากเตา  รอจนกระทั่งเย็นลงแล้วค่อยกรอกใส่ขวดหัวเชื้อ  หรือภาชนะอื่นๆ แต่ผมขอแนะนำที่เป็นขวดแก้วจะดีกว่าเพราะรักษากลิ่นไว้ไม่เพี้ยน
วิธีใช้
                นำไปผสมกับน้ำในบ่อที่เราจะตกในอัตรา 1-1 ส่วน  แล้วใส่ขวดฉีดพ่นไปที่ขนมปังที่ปั้นใส่ตระกร้อและชิ้นที่เกี่ยวเบ็ดอยู่  แต่ถ้าจะให้ดีควรแบ่งขนมปังป่นสัก 1 กิโลกรัมไว้ต่างหาก  แล้วนำหัวเชื้อนี้ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันตีอ่อยเหยื่อก่อนตกจริงสักประมาณ 4-5 ไม้  จะทำให้ปลาเข้าเร็วขึ้น  เมื่อตกไปสักระยะหนึ่งก็ตีอ่อยอีกครั้งหนึ่ง  บทความนี้ผมเคยลงในเว็บสยามฟิชชิ่ง และฟิชชิ่งฟอร์ยู  มีสมาชิกนักตกปลาได้โทรมาแจ้งผมหลายท่าน  ว่าสูตรนี้ได้ผลจริง  เคล็ดลับที่นักแข่งหลายๆ ท่าน  ที่เผยไม่หมด แต่สำหรับผมไม่ปิดบัง  ตัวเด็ดจะอยู่ที่ผงชูรส ส่วนกลิ่นเป็นตัวนำทาง  แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายๆอย่าง  นักแข่งที่ดีควรเตรียมความพร้อมสูตรเหยื่อสำรองไว้หลายๆสูตร  แต่สูตรนี้มาตรฐานใช้ได้ตามบ่อตกปลาทั่วประเทศ

-->
-->