google-site-verification: googlee94f9d8adbc03df9.html แหล่งตกปลา เหยื่อตกปลา รอกและคัน: การพัฒนาคันเบ็ดตกปลา https://fishingsourcethailand.blogspot.com/

วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2561

การพัฒนาคันเบ็ดตกปลา


การพัฒนาคันเบ็ดตกปลา 
คันเบ็ดไม้ไผ่ สมัยก่อนการตกปลาในประเทศไทย หรือในต่างประเทศ ค่อนข้างรู้จักกันดี ถึงแม้ปัจจุบัน การพัฒนาคันเบ็ดตกปลา จะก้าวล้ำไปมากก็ตาม  คันเบ็ดไม้ไผ่ก็ยังถือว่าเป็นคันเบ็ดที่มีนักตกปลาบางกลุ่มยังนิยม เพราะมีความคลาสสิคในตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกตกปลาด้วยชุดฟลาย
การพัฒนาคันเบ็ดตกปลา  คุณสมบัติ คุณภาพ และลักษณะการใช้งานของคันเบ็ด จะมีสิ่งที่ต้องพิจารณาอยู่ 3 ประการคือ
1.ความแข็ง หรือ เพาเวอร์ (Power)
ความแข็ง หรือ เพาเวอร์ (Power) คือขนาดของแรงที่มากระทำต่อคันเบ็ดให้บิดหรืองอโค้ง โดยยึดแรงปฏิกิริยาที่แบล้งค์จะดีดตัวหรือขืนตัว เมื่อมีแรงมาดึงที่ปลายคันเบ็ด มีอยู่ 3 ระดับใหญ่ๆ คือ แข็ง (Heavy), ปานกลาง (Medium) และอ่อน (Light) ใช้ตัวย่อว่า H,M และ L ตามลำดับ และสามารถแบ่งย่อยออกเป็น 9 ระดับตามที่บริษัทของ เฟนวิค (Fenwick) กำหนดจนเป็นที่ยอมรับมาตรฐานนี้กันทั่วโลก คือ
กลุ่มอ่อน มี 3 ระดับ คือ Ultra Light, Extra Light, Light
กลุ่มปานกลาง มี 3 ระดับ คือ Medium Light, Medium, Medium Heavy
กลุ่มแข็ง มี 3 ระดับ คือ Heavy, Extra Heavy, Ultra Heavy
       คันที่มีพาวเวอร์สูงๆ ก็เหมาะที่จะใช้กับสายที่มีความทนแรงดึงสูงๆ แต่ก็ไม่เหมาะกับสายที่มีแรงยืดตัวต่ำๆ(ในกรณีนี้แก้ด้วยการใช้สายซ็อค ลีดเดอร์)
       ส่วนคันที่มีพาวเวอร์ไม่มาก ก็เหมาะกับสายที่มีความทนแรงดึงน้อยๆ เพราะคันจะเป็นตัวซับแรงกระชากได้ดี

2.แอคชั่น (Action)
แอคชั่น (Action) คือรูปแบบการโค้งตัวของคันเบ็ด แบ่งออกได้ 4 รูปแบบ คือ
Action A หรือ Extra fast เป็นแอ็คชั่นที่แข้งมาก คือเมื่อทดลองโน้มคันเบ็ดดูจะเห็นว่าปลายคันโค้งลงมาได้เพียง 1/4 หรือ 25% ของความยาวทั้งหมด
Action B หรือ Fast เป็นแอ็คชั่นแข้งพอประมาณคันเบ็ดจะโค้งลงมาประมาณ 1/3 หรือ 33% ของความยาวทั้งหมด
Action C หรือ Moderate เป็นแอ็คชั่นปานกลาง คันเบ็ดจะโค้งลงมา 1/2 หรือ 50% ของความยาวทั้งหมด
Action D หรือ Slow เป็นแอ็คชั่นที่อ่อนที่สุด เกือบจะเรียกได้ว่าโค้งเหมือนเครื่องหมายวงเล็บ
คันที่มีแอคชั่นแข็ง ก็เหมาะต่อการส่งเหยื่อที่มีน้ำหนักมากกว่า แต่ก็จะส่งผ่านการรับรู้แรงสั่นสะเทือนด้อยกว่าคันที่มีแอคชั่นอ่อน
3.เซนชิติวิตี้ (Sensitivity)
เซนชิติวิตี้ (Sensitivity) คือความไวของคลื่นสัญญาณที่ส่งมาทางปลายสายมาสู่มือผู้ตก ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวของเหยื่อปลอม หรือ ปลาตอด เซนซิติวิตี้ของคันเบ็ดจะมีมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับคุณภาพของวัสดุที่นำมาผลิตเป็นแบล้งค์ ตัวเส้นใย และโครงสร้างของเส้นใยที่นำมาทอผสานเป็นผ้า การอัดม้วนที่แน่นเสมอกันตลอดทั้งคัน การอบเนื้อให้แกร่ง เป็นต้น เหล่านี้ล้วนมีผลต่อเซนซิติวิตี้ทั้งนั้น
Action A หรือ Extra fast เป็นแอ็คชั่นที่แข้งมาก คือเมื่อทดลองโน้มคันเบ็ดดูจะเห็นว่าปลายคันโค้งลงมาได้เพียง 1/4 หรือ 25% ของความยาวทั้งหมด
Action B หรือ Fast เป็นแอ็คชั่นแข้งพอประมาณคันเบ็ดจะโค้งลงมาประมาณ 1/3 หรือ 33% ของความยาวทั้งหมด
Action C หรือ Moderate เป็นแอ็คชั่นปานกลาง คันเบ็ดจะโค้งลงมา 1/2 หรือ 50% ของความยาวทั้งหมด
Action D หรือ Slow เป็นแอ็คชั่นที่อ่อนที่สุด เกือบจะเรียกได้ว่าโค้ง
วัสดุที่นำมาทำคันเบ็ด
ในปัจจุบันวัสดุที่ใช้ทำคันเบ็ดถูกคัดสรรปรุงแต่งสังเคราะห์ขึ้นมาอย่างมากมาย ซึ่งก่อให้เกิดคันเบ็ดที่มีคุณสมบัติที่ตรงต่อความต้องการของนักตกปลาและตลาด  มีดังนี้
1.  ไฟเบอร์ กลาส เมื่อช่วงการพัฒนาการทางเคมีภัณฑ์และความสำเร็จในการพัฒนาวัสดุสังเคราะห์เป็นไปด้วยดี ในช่วงนี้ผู้พัฒนาคันเบ็ดก็ได้รู้จักกับวัสดุใหม่ที่มีคุณสมบัติที่เสถียรกว่าวัสดุธรรมชาติ แรงดีดแรงงัดก็มีความสม่ำเสมอในทุกๆชิ้นในสายการผลิต
      ข้อดี คันไฟเบอร์ กลาส ถือเป็นคันที่มีประสิทธิภาพรอบด้านในยุคสมัยนั้น แต่เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน คันไฟเบอร์ กลาส กลับมีข้อจำกัดตรงที่มีน้ำหนักมาก ความไวในการส่งผ่านแรงสั่นสะเทือนค่อนข้างน้อย แต่ด้วยความเหนียวทนทานของไฟเบอร์ กลาส ก็ทำให้เหมาะกับงานสำหรับตกปลาด้วยเหยื่อปลอมขนาดเล็กๆ เช่น  ปลานิล ปลาดุก บ้านเรา นิยมใช้กันมากเนื่องจาก ราคาค่อนข้างถูก และ มีให้เลือกหลายหลายรุ่น และ ญี่ห้อ อีกทั้งยังใช้งานได้หลากหลาย  ไม่ต้องบำรุงรักษามาก
2.  กราไฟท์ ยุคต่อมาการพัฒนาการด้านเทคโนโลยีวัสดุศาสตร์ดีขึ้น สามารถประสานกราไฟท์ให้ได้เป็นเส้นใย และนำมาทอเป็นผืน แล้วนำมาม้วนรอบแกนแล้วประสานด้วยกาวให้อยู่ตัว คันกราไฟท์ก็ถือกำเนิดขึ้น
       ข้อดีของวัสดุกราไฟท์คือเบา และมีแรงดีดดี และเมื่อนักประดิษฐ์ได้ลองถักทอแผ่นกราไฟท์ด้วยโครงสร้างที่ต่างกันก็เกิดคุณสมบัติของคันเบ็ดที่แตกต่างออกไป แต่ข้อจำกัดของกราไฟท์ก็คือ เป็นวัสดุที่เปราะบาง และเป็นสื่อไฟฟ้า เคยมีกรณีฟ้าผ่าลงคันเบ็ดมาแล้วหลายหน และในที่สุดก็ได้มีการผสมข้ามวัสดุกันระหว่างกราไฟท์ กับไฟเบอร์กลาส ก็ทำให้ได้วัสดุทำคันที่สนองต่อการตลาดมากขึ้น
3. คาร์บอนไฟเบอร์ และเมื่อสามารถนำธาตุกราไฟท์มาถักทอเป็นแผ่นผืนได้ หลังจากนั้นก็ได้มีการศึกษานำเอาวัตถุธาตุอื่นๆมาทอประสานกัน คาร์บอน ก็เป็นอีกหนึ่งวัตถุธาตุที่ได้รับการพัฒนามาจนเป็นคันเบ็ด เช่นเดียวกันกับวัตถุธาตุอื่นๆ เช่น โบรอน เป็นต้น
       ข้อดีของ วัตถุธาตุพิเศษเหล่านี้คือ นักประดิษฐ์ได้คัดสรรนำธาตุที่มีความแกร่ง และ ยืดหยุ่นสูงมาประกอบ อีกทั้งยังมีความเบาเป็นพิเศษ แต่ข้อจำกัดของวัสดุใหม่ๆเหล่านี้คือ ราคาที่สูง เพราะวัสดุเหล่านี้ ยังมีการศึกษาพัฒนาคุณสมบัติอยู่เรื่อยๆ เพื่อให้ได้สิ่งที่เหมาะสมกว่า ทำให้ยังมีวางจำหน่ายให้เห็นอยู่น้อยมากในปัจจุบัน
เนื้อคันเบ็ด ที่เห็นได้จากในตลาดบ้านเราตอนนี้ก็มีประมาณ 3เนื้อที่
 1. คันเนื้อไฟเบอร์ : เป็นคันที่มักมีเวท และ แอ็คชั่น ค่อนข้างจะอ่อน หรือ ยวบๆหน่อย โคนคันจะค้อนข้างใหญ่  ราคาถูกและมีให้เลือก ทั้งแบบ คันเบท และ สปิน ด้ามก็มีให้เลือก ทั้งด้าม ก๊อก และ ด้ามยาง ซึ่งอาจเรียกได้ว่า เป็นคันพื้นฐานของผู้ฝึกหัดตกปลาช่วงแรกๆก็ว่าได้ ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ต้องการดูแลรักษามาก ราคาถูก  ส่วนมาก ราคาเริ่มต้นที่ 200- 400 กว่าบาท
2. คันเนื้อตัน : ที่เราเคยเห็นจะเป็นคันเนื้อสีเขียวๆ ในปัจจุบัน มีการผลิตคันให้มีสีอื่นๆแล้ว ทั้ง สีใส่ , ดำ , หรือสีกากเพชร ผมก็เคยเห็นมาแล้ว โดยรวมแล้วคันประเภทนี้เป็นคันอเนกประสงค์อย่างแท้จริง เพราะมีแอ็คชั่น กลาง-แข็ง  ในส่วนดีที่คนมักนิยมซื้อคันตัน ก็เพราะว่า เป็นคันที่ไม่มีกระดูกคัน กล่าวคือ จะใช้กับรอกเบท หรือ สปินก็ได้ ไม่ต้องเปลี่ยนคัน และ ไม่มีผลต่อการใช้งานคัน มักใช้เป็นคันตกปลาใหญ่ ทั้งทนทาน ตากแดดได้นานไม่กรอบง่าย ราคาคันละประมาณ 300-500 กว่าบาท ก็หาซื้อได้แล้ว แต่ คันตันมีข้อเสียคือ เรื่องน้ำหนักคันที่ค่อนข้างหนัก จึงมักใช้งานประเภท ตกปลาทะเล หรือ ปลาตามแม่น้ำ ไม่เน้นการตี เพราะคันมีน้ำหนักมากกว่าคันประเภทอื่นๆ จึงอาจทำให้ตี หรือ ส่งเหยื่อได้ไม่ไกลเท่าที่ควร
3. คันเนื้อกราไฟท์ : เป็นคันที่สวย และ เพรียวที่สุด เมื่อเทียบกับคันเนื้ออื่นๆนะครับ หากใครชอบคันที่มีความสาย และ เก็บลายละเอียดดีๆ ก็มักจะเลือกคันประเภทเนื้อกราไฟท์ ส่วนเรื่องแบรนนี่ก็แล้วแต่ใครจะชอบแบรนใด เลือกได้ตามสบายใจ เพราะเดี่ยวนี้เท่าที่เห็นมา คัน Viva ด้ามก๊อกเคลือบให้เสร็จ แถมยังเป็นเนื้อกราไฟท์ ทอลายผ้าอีกต่างหาก ราคาแค่คันละ 500 บาทเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น